“เรามอบสันติสุขไว้ให้ท่านทั้งหลาย

เราให้สันติสุขของเราแก่ท่าน

เราให้สันติสุขแก่ท่าน ไม่เหมือนที่โลกให้

ใจของท่านอย่าหวั่นไหว หรือมีความกลัวเลย”

(ยอห์น 14:27)

........................................

“สันติสุข” หรือ “Shalom” เป็นคำทักทาย หรือคำอำลาของชาวยิว

“สันติสุข” หรือ “Shalom” หมายถึงสุขภาพร่างกาย

แต่ในภายหลังมีความหมายเพิ่มขึ้น หมายถึง

ความสุขสมบูรณ์ และการรอดพ้นที่พระเมสสิยาห์จะนำมาให้

(อ้างอิงเชิงอรรถ “s” จากพระคัมภีร์คาทอลิก ในพระวรสารนักบุญยอห์น14:27)

พระเยซูเจ้าตรัสว่าพระบิดาจะทรงส่งพระผู้ช่วยเหลือคือพระจิตเจ้ามายังเรา

ลงมาสู่เราผู้มีความเชื่อ พระเจิตเจ้าจะทรงสอนทุกสิ่งแก่เรา

จะนำพระคุณและพระพรลงมาสู่เรา

ใจของเราจะไม่หวั่นไหวและหวาดกลัวต่อสิ่งใด

ใจของเราจะเปี่ยมด้วยสันติสุขในพระพรของพระเจ้า

...........................................

ข้าพเจ้าค้นหาข้อความบางตอนที่เกี่ยวข้องกับศาสนาและความเชื่อ

ในโลกออนไลน์

ทุกครั้งที่ข้าพเจ้าได้เข้าไปอ่าน ข้อความ หรือ Commentในนั้น

มันเหมือนเป็นสงครามศาสนาย่อมๆบนโลกออนไลน์

และพร้อมที่จะทำให้ผู้อ่อนแอในความเชื่อต้องหวั่นไหวหวาดกลัว

ข้าพเจ้ารู้สึกเศร้าและสะท้อนในใจกับบาง Comment

แต่ก็รู้สึกเกิดสันติสุขในใจกับบาง Comment ด้วยเช่นกัน

“สาร” มีไว้ให้เราเลือกที่จะ “รับ”

อยู่บนพื้นฐานความมั่นคงทางความรัก ความเชื่อ และความไว้ใจในพระของเรา

ในกลุ่มผู้เชื่อเราจะเป็นเสมือนสายใยที่ถูกเชื่อม

และถักทอจนเหนียวแน่นไว้ด้วยกัน

แม้จะไม่เคยได้รู้จักกันโดยส่วนตัวก็ตาม

พลังของพระจิตเจ้าจะทำให้เรากล้าที่จะเผชิญและแยกแยะสิ่งดี

และไม่ไปข้องเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่ดี

พลังของพระจิตเจ้าจะทำให้เราเกิดสันติสุขในใจ

ไม่สร้างสงครามในทุกช่องทาง

แต่เติมเต็มความรัก ความเชื่อ ความไว้ใจในทุกช่องทาง

และพร้อมนำสันติสุขไปสู่ทุกคน

สมดั่งที่เราได้รับสันติสุขนั้นมา

...............................................

ขอจงมี สันติสุข อยู่ในใจ

อย่าหวั่นไหว  หวาดกลัว สิ่งชั่วร้าย

มีพระคุณ  พระจิตเจ้า  ใจผ่อนคลาย

สุขสบาย  ในพระคุณ  พระเมตตา

.....................................

ผู้มีสันติสุขในใจ

ถึงแม้เราจะตกอยู่ในปัญหา ใจเราจะก็จะมีสันติสุข

สันติสุขจะเติมพลังให้เรา ช่วยเราให้รอดพ้นจากปัญหานั้นไปได้เร็วยิ่งขึ้น

และสันติสุขจะทำให้พระวาจาของพระเจ้าเจริญเติบโตในใจเรา

แต่ความหวั่นไหวหวาดกลัวจะสกัดกั้นเราจากพระวาจานั้น

.........................................

S